ชุดดับเพลิงในอาคาร มาตรฐาน EN469 ยี่ห้อ ST รุ่น STFS15

1. เสื้อดับเพลิง ตัดเย็บจากผ้าทอสังเคราะห์รวม 3 ชั้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

- ผ้าชั้นอก (Outer Shell) ทำจากเส้นใย 93% meta-aramid(Nomex), 5% para-aramid, 2% antistatic carbon fibre ขนาดไม่น้อยกว่า 200 กรัมต่อตารางเมตร และสามารถป้องกันเปลวไฟได้

- ผ้าชั้นกลาง (Moisture Barrier) ทำจากวัสดุผ้า Aramid  เคลือบด้วย PTFE ช่วยป้องกันน้ำและไอน้ำ ช่วยป้องกันน้ำและไอน้ำ และสามารถระบายความร้อนได้

- ผ้าชั้นใน (Thermal Barrier) ทำจากเส้นใย Aramid และเย็บปิดทับด้วยผ้า Aramid viscose ช่วยป้องกันและควบคุมการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิทั้งความร้อนและความเย็น

- ปกคอเสื้อใช้วัสดุไม่น้อยกว่า 2 ชั้น สามารถปิดรอบลำคอได้ตลอดยึดด้วยแถบติด มีความสูงของคอปกไม่น้อยกว่า 3 นิ้ว

- มีกระเป๋าเสื้อด้านหน้า 2 ใบ บริเวณชายเสื้อ พร้อมฝาปิด

- มีกระเป๋าสำหรับใส่วิทยุสื่อสาร 1 ใบ บริเวณอกซ้าย

- สาบด้านในของเสื้อมีแถบตีนตุ๊กแก (Velcro)

- ด้านในของสาบเสื้อ เย็บติดด้วยซิปตลอดแนวความยาวของสาบเสื้อ

- ปลายแขนด้านในเย็บติดด้วยผ้าแบบยืดสำหรับรัดข้อมือ

- ปลายแขนเสื้อเสริมวัสดุทำจากหนัง เพื่อความทนทานต่อการใช้งาน             

- เสริมวัสดุบริเวณศอกทั้งสองข้าง ทำจากหนัง เพื่อเพิ่มความทนทานในการใช้งาน

- มีแถบสะท้อนแสงเป็นแบบรีดร้อนติดกับตัวชุดดับเพลิง ขนาดไม่น้อยกว่า 2 นิ้ว สีเหลือง-เทา ในบริเวณ ดังนี้

                                1) บริเวณรอบแขนเสื้อ ทั้ง 2 ข้าง ไม่น้อยกว่า 2 ชั้น

                                2) บริเวณตัวเสื้อ มีแถบแนว จำนวนไม่น้อยกว่า 2 ชั้น และมีแถบแนวตั้ง จำนวน 2 เส้นทั้งหน้าและหลังของตัวเสื้อ

2. กางเกงดับเพลิง ตัดเย็บจากผ้าทอสังเคราะห์รวม 3 ชั้น ชนิดเดียวกับตัวเสื้อ โดยมีรายละเอียดดังนี้

- กางเกงมีสาบบริเวณเป้ากางเกง เย็บติดด้วยซิป มีแถบตีนตุ๊กแก (Velcro) ปิดทับ

- สายเอี้ยมรั่งบ่า (Suspender) ขนาดความกว้างสายไม่น้อยกว่า 1 นิ้ว แบบยึดกับตัวกางเกง

- มีกระเป๋าด้านข้างกางเกง 2 ข้าง พร้อมฝาปิด

- มีแถบสะท้อนแสง แบบเดียวกับตัวเสื้อ ไม่น้อยกว่า 2 ชั้น บริเวณปลายขากางเกงทั้งสองข้าง

- ปลายขากางเกงเสริมวัสดุทำจากหนัง เพื่อความทนทานต่อการใช้งาน

- เสริมวัสดุบริเวณหัวเข่าทั้งสองข้าง ทำจากหนัง  เพื่อเพิ่มความทนทานในการใช้งาน

3. ชุดดับเพลิงได้รับการรับรองมาตรฐาน EN 469 : 2020 ผ่านการทดสอบไม่ต่ำกว่าระดับ  X2 Y2 Z2 และทนอุณหภูมิได้ไม่น้อยกว่า 260 องศาเซลเซียส พร้อมแนบเอกสารประกอบการพิจารณา